Memory Trip
หนองคายน่าอยู่
กินลม ชมสะพาน ริมฝั่งโขง
Let's go!! ถึงเวลาออกเดินทางไปพบกับความทรงจำสุดพิเศษ ที่จะทำให้คุณมีความสุขกับทุกเสี้ยวนาทีตลอดการเดินทาง วันนี้เราจะไปดื่มด่ำกับทุกความรู้สึกในแถบอีสานบ้านเฮากันซะบ้าง คราวนี้ไปไกลถึงดินแดนพญานาคกันเลยทีเดียว จังหวัดหนองคายนั่นเองค่าาาา
หลายๆคน อาจจะมองจังหวัดหนองคายเป็นเพียงแค่ทางผ่านเพื่อข้ามแดนไปยังประเทศลาวเท่านั้น แต่จริงๆแล้วจังหวัดหนองคายนั้นถูกขนานนามว่าเป็นเมืองที่น่าอยู่ ติดอันดับ 7 ของโลก เมื่อนานมาแล้ว และยังคงมีอีกหลายถานที่ หลายมุมมอง หลายความรู้สึก ให้ทุกๆคนได้ซึมซับกับบรรยายกาศแสนอบอุ่น เป็นกันเองอีกมากมาย บวกกับทัศนยภาพริมฝั่งแม่น้ำโขง อากาศดีๆ ลมพัดเย็นสบายผสมกับกลิ่นไอของแม่น้ำโขงที่ให้ความรู้สึกสดชื่นแบบสุดๆ
Describe your image.
Describe your image.
Describe your image.
Describe your image.
Describe your image.
Describe your image.
สถานที่ที่ทุกคนน่าจะเคยผ่านหูผ่านตากันมาบ้าง ก็น่าจะเป็นสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ที่สร้างขึ้นเพื่อข้ามแดนไปยังประเทศลาว นอกจากนั้นยังเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ริมฝั่งแม่น้ำโขงภายในตัวเมืองหนองคายที่งดงาม หรือจะเป็นตลาดท่าเสด็จหรือตลาดอินโดจีน ก็เป็นอีกหนึ่งในสถานที่ที่ต้องมาเพื่อซื้อหาของฝาก มีทั้งสินค้าพื้นเมืองและสินค้านำเข้าจากกลุ่มประเทศอินโดจีน มีการจำลองสภาพร้านค้าบ้านเรือนเก่าเสมือนกับอยู่ในยุคสมัยก่อน นอกจากนั้นทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ยังมีถนนคนเดินริมฝั่งโขงให้เดินเล่น กินลม ชมการแสดงพื้นเมืองของจังหวัดหนองคายแบบเพลินๆได้อีกด้วยนะคะ
และสิ่งที่ขาดไม่ได้ ก็คือการได้ลองลิ้มชิมรสอาหารประจำถิ่น อย่าง “แหนมเนือง” ที่เลื่องชื่อลือชาเป็นอย่างมาก ใครมาหนองคายแล้วไม่ได้รับประทานแหนมเนืองถือว่าผิดนะค่า วันนี้เราก็พามายังร้านเด็ด ร้านดังประจำจังหวัดหนองคาย อย่างร้านแดงแหนมเนือง มีอาหารแนะนำมากมาย อาทิ แหนมเนือง ปอเปี๊ยสด หมูยอนึ่ง กุ้งพันอ้อย ที่มีรสชาติอร่อย แถมราคาไม่แพง หรืออาจจะซื้อเป็นของฝากได้ดีเลยทีเดียว ยังไงก็ตามมาถึงหนองคายอย่าลืมแวะ ร้านแดงแหนมเนืองเปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 06.00-20.00 น นะคะ
นั่งรถอีแต๊ก ชมทะเลหมอก
“ภูห้วยอีสัน” สวรรค์แห่งแดนอีสาน
หลังจากที่รับบรรยากาศในตัวเมืองกันไปแล้ว อีกหนึ่งสถานที่ที่เราจะพาไปก็คือ “ภูห้วยอีสัน” สวรรค์แห่งแดนอีสาน หากใครอยากจะสัมผัสกับอากาศหนาวๆ หมอกจางๆ วิวภูเขาสวยๆ ไกลสุดลูกหูลูกตา แล้วตื่นมาชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายได้ชาร์ตแบบอย่างเต็มที่ ได้สูดโอโซนให้เต็มปอด เพิ่มเติมคือความฟินกับทะเลหมอกงามๆ จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยไม่แพ้ใครที่จะทำให้คุณประทับใจมิรู้ลืม
ภูห้วยอีสัน อยู่ใน ต.บ้านม่วง อ.สังคม จ.หนองคาย เป็นจุดพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกได้แบบกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ถือเป็นจุดชมทะเลหมอกสุด Unseen ที่สวยงามอีกจุดหนึ่งของหนองคาย ก่อนจะเดินทางไปชมทะเลยามเช้าแนะนำให้หาที่พักและอย่าลืมติดต่อรถอีแต๊กเพื่อขึ้นไปยอดภูให้เรียบร้อย เนื่องจากไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวนำรถส่วนตัวขึ้นไปข้างบนนั่นเอง
ในครั้งนี้เอง เราได้มีการจัดหาที่พักไว้ล่วงหน้าก่อนการเดินทาง เราเลือกพักที่เขาเคียงโขงโฮมสเตย์ ที่พักบรรยากาศดี ใกล้กับจุดขึ้นรถอีแต๊กเลยค่ะ ที่นี่มีที่พักให้เลือก 2 แบบด้วยกัน หากมากันเป็นกลุ่มต้องการความเป็นส่วนตัว ก็มีเป็นบ้านพักที่จุได้ถึง 10-15 คนไว้ค่อยให้บริการค่ะ ราคาเพียง 2,000 บาท หรือมากันเป็นคู่ อยากซึมซับบรรยากาศหนาวเย็นในยามค่ำคืน ก็มีเต้นท์ไว้ให้บริการ แต่ไม่ห่วงว่าจะหนาว หรือนอนไม่สบายเลยค่ะ เพราะเต้นท์ของที่นี่ ทั้งใหญ่ ผ้าห่มหนา พร้อมผ้านวมปูที่นอนมีปลั๊กไฟ และไฟส่องสว่างทุกเต็นท์ นอนได้สบาย ปลอดภัยหายห่ว่ง สนราคาอยู่ที่เต้นท์ละ 450 บาทเท่านั้นเองค่ะ
เริ่มต้นเช้าวันใหม่ ปลุกตัวเองตื่นจากภวังค์ลุกขึ้นมาล้างหน้า แปรงฟัน หยิบกล้องคู่ใจเตรียมพร้อมไปชมทะเลหมอกบนภูห้วยอีสันในตอนเช้ากันค่ะ จากที่พักเราจะต้องไปยังจุดขึ้นรถอีแต๊กที่ครัวไม้น้ำ ถัดจากที่พักไปเพียง 200 เมตรเท่านั้นเอง ซึ่งราคาค่ารถคนละ 60 สามารถนั่งได้ 5-7 คน บอกได้คำเดียวสำหรับคนกรุงแค่นั่งรถอีแต๊กก็ Unseen สุดๆไปเลย เมื่อลุงคนขับเริ่มสตาร์ทเครื่อง เพียงได้ยินเสียงดังแต๊กๆๆ ใจก็เต้นตึกๆตักๆแล้วล่ะค่ะ รถวิ่งไปช้าๆ พาพวกเราผ่านดงกล้วย รถโยกไปมาตามเส้นทางขรุขระ พร้อมกับไอหมอกหนาวเย็น ก็ได้ฟิลล์ดีเหมือนกัน
ในที่สุดเราก็ขึ้นมาถึงบนภูห้วยอีสัน ผ่านในเวลาไม่ถึง 20 นาที จุดชมวิวแห่งนี้ สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำโขงข้างล่างได้แบบพาโนรามา มีเทือกเขาน้อยใหญ่รายล้อมอยู่อย่างสวยงาม เมื่อตะวันโผล่พ้นยอดเขาขึ้นมาก็ยิ่งประทับใจมากขึ้นไปอีก ช่องว่างระหว่างหุบเขาซึ่งตอนแรกมีเพียงหมอกจางๆลอยเรี่ยไปตามผิวน้ำกลับปรากฏสายหมอกหนาค่อยๆเคลื่อนตัวเข้ามาราวกับคลื่นทะเล ไม่นานก็กลายเป็นผืนหมอกขนาดมหึมาปูทับท้องฟ้าไปจนสุดสายตา เป็นอะไรที่มหัศจรรย์และสวยงามราวกับได้ยืนอยู่ท่ามกลางสรวงสวรรค์ดีๆนี่เองนอกจากนั้นเองไม่ยามที่ทะเลหมอกค่อยๆเลือนหายไป ก็ยังได้เห็นภูห้วยอีสันในมุมหนึ่งที่สวยงามมากเช่นกัน ท้องฟ้าเปิด ตะวันคอยๆทอแสงประกาย เพิ่มความสดใสให้กับสถานที่แห่งนี้อยู่ไม่น้อยเช่นเดียวกัน และถือว่าเป็นอีกหนึ่งสุด Unseen ที่มั่นใจได้แน่ๆว่า เมื่อได้มาสัมผัสแล้วจะต้องหาโอกาสกลับมาเยือนอีกครั้งอย่างแน่นอน เพราะที่นี่คือสังคมน่าอยู่อีกที่หนึ่งของประเทศไทย
